ver

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

CONGO คองโก มฤตยูหยุดนรก

CONGO คองโก มฤตยูหยุดนรก 




 เรื่องย่อ Congo คองโก มฤตยูหยุดนรก 
หนังแอ๊คชั่นสุดมันส์ ว่าด้วยเรื่องของเจ้าหน้าที่ภาคสนามของบริษัท TarviCom ได้หายสาปสูญไประหว่างการค้นหาแร่ที่ป่าคองโก และ 1 ในคนที่หายไปนั้นก็มีคู่หมั้นของ ดร.คาเรน รอสส์ (Laura Linney) อยู่ด้วย เธอจึงอาสาไปตามหาพร้อมทั้งฟอร์มทีมบุกป่าขึ้นมา อันประกอบไปด้วย ดร.ปีเตอร์ เอลเลียต (Dylan Walsh) กับลิงที่รู้ภาษามนุษย์ที่ชื่อว่า เอมี่ - กอริลล่าภูเขาแอฟริกัน ซึ่งผ่านการฝึกภาษามือในการสื่อสาร จากผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งกำลังจะ ถูกส่งกลับคืนสู่ป่าลึก , มันโร (Ernie Hudson) ผู้นำทีมคอมมานโดของภารกิจนี้ และ โฮโมลก้า (Tim Curry) ผู้เชื่อว่าในป่าคองโก มีสิ่งล้ำค่าอยู่ และมันนำมาซึ่งหายนะอันน่าสยดสยองหนังแอ๊คชั่นสุดมันส์ ว่าด้วยเรื่องของเจ้าหน้าที่ภาคสนามของบริษัท TarviCom ได้หายสาปสูญไประหว่างการค้นหาแร่ที่ป่าคองโก และ 1 ในคนที่หายไปนั้นก็มีคู่หมั้นของ ดร.คาเรน รอสส์ (Laura Linney) อยู่ด้วย เธอจึงอาสาไปตามหาพร้อมทั้งฟอร์มทีมบุกป่าขึ้นมา อันประกอบไปด้วย ดร.ปีเตอร์ เอลเลียต (Dylan Walsh) กับลิงที่รู้ภาษามนุษย์ที่ชื่อว่า เอมี่, มันโร (Ernie Hudson) ผู้นำทีมคอมมานโดของภารกิจนี้ และ โฮโมลก้า (Tim Curry) ผู้เชื่อว่าในป่าคองโก มีสิ่งล้ำค่าอยู่ แต่เหนืออื่นใด พวกเขากำลังจะได้เจอกับสิ่งที่อันตรายเกินกว่าพวกเขาจะคาดคิด หนังสร้างจากนิยายของ Michael Crichton ครับซึ่งผมก็เคยได้อ่านฉบับนิยายมาแล้ว ก็ยอมรับในฝีมือของ Crichton จริงๆ ที่สามารถเล่าเรื่องได้อย่างเห็นภาพโคตรๆ อ่านแล้วยังกะไปนั่งอยู่ในป่าแน่ะ และเนื้อเรื่องก็เข้มข้นอยู่ตลอดครับ ข้อมูลยอมรับว่าแน่นจริงๆ (ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของนิยายพี่แกอยู่แล้วครับ) สำหรับฉบับหนังนั้น กลับออกมาไม่เด่นเท่า โอเคครับ ฉากและโลเคชั่นนับว่าดีทีเดียว แต่ยังไม่หนักหนาเท่าในนิยาย คือระดับมันต้องประมาณ Jurassic Park เลยล่ะครับ ทะมึนมาหยั่งงั้นเลย ในเรื่องมันแค่ระดับหนึ่งเท่านั้นครับ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ แค่มันไม่มากเท่าในนิยายเท่านั้นเอง ส่วนพล็อตในนิยายก็มีเรื่องให้ผจญภัยตั้งมากมายกว่า ส่วนในหนังมันก็มาได้แค่ส่วนหนึ่งแต่ก็ต้องทำใจล่ะครับ หนังจะทำให้เฉียบเท่านิยายมันลำบาก ยิ่งเป็นนิยายเกี่ยวกับจินตนาการแบบนี้ด้วยแล้วก็ยอมรับล่ะครับว่าไม่ใช่ของง่ายๆ เลย แต่เท่าที่เป็นนี่ก็นับว่าโอเคครับ Effect นั้นโคตรเนี้ยบ และหากมองอย่างคนที่ไม่เคยอ่านนิยายมาก่อนล่ะก็ หนังมันมีการเดินเรื่องฉับไวดี และผมว่าความตื่นเต้นถูกใส่ลงมาในหนังได้ถูกจังหวะครับ ทำให้หนังตลอดทั้งเรื่องไม่น่าเบื่อ มีลุ้นได้ตลอด ยิ่งช่วงท้ายนี่ผมว่าทำได้ลุ้นดีเลยนะ (โดยส่วนตัวผมชอบตอนจบในหนังมากกว่าของนิยายครับ) รวมไปถึงดนตรีชั้นครูของ Jerry Goldsmith ที่ให้อารมณ์ผจญภัยได้อย่างเกินร้อย ก็เป็นงานกำกับชิ้นที่ 3 ของ Frank Marshall ซึ่งเคยทำ Arachnophobia และ Alive มาก่อน ส่วนมากหนังพี่แกก็ดีครับ โอเค เพียงแต่จะยังไม่เต็มที่เท่านั้นเอง ถ้าอยากดูหนังผจญภัยเข้าป่าสนุกๆ ซักเรื่อง อันนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าลองครับ สนุกดีไม่ต้องคิดมาก แล้วลองหานิยายมาอ่านด้วยล่ะครับ จะได้สนุกยิ่งขึ้น ผมว่าอ่านหลังจากดูหนังแล้วดีกว่าครับ จะได้รู้สึกว่ามันเจ๋งขึ้น
                                          ** ภาพ Master เสียง ไทยมาสเตอร์ นะจ๊ะ **



เสียงไทย มาสเตอร์




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น